เรื่องย่อละครซิทคอมมนต์รักมหานคร

เรื่องย่อละครซิทคอมมนต์รักมหานคร

สนธยา ชิตมณี

สนธยา ชิตมณี

มนต์รักมหานคร เป็นเรื่องราวเบาสมองของชีวิตคนต่างจังหวัดจากทั่วทุกภาคที่โคจรมาใช้ชีวิตร่วมกันในมหานครอันยิ่งใหญ่ ออกอากาศเสาร์ที่ 23 ตุลาคมนี้ทางช่อง 7 เวลาบ่ายโมง

“ มนต์รักมหานคร ” บทประพันธ์…เล่าเต็งกำกับการแสดงโดย ชวลิต พงศ์ไชยยงผลิตโดย บริษัท กำกับการดี จำกัด กรุงเทพฯ เปรียบเหมือนสวรรค์เมืองฟ้าสำหรับใครหลายๆคนแต่พวกเขาคือคนแปลกหน้าสำหรับที่นี้มีเพียงความต่างถิ่นและเสียงเพลงเท่านั้นที่ร้อยรัดหัวใจของพวกเขาไว้ด้วยกัน
และช่วยผลักดันพวกเขาเพื่อไปให้ถึงฝั่งฝันในมหานครแห่งนี้

“เธอหลงเกาหลีแต่พี่เกาเหลา ไม่กินเส้นเขาที่มาหลอกเอาเงินทองน้องไป ฟังเสียงครวญตัวแทนหนุ่มไทย ได้โปรดเปลี่ยนใจ กลับมองหนุ่มไทย ใกล้ๆ ตัวน้อง” นั่นคือบทเพลงเสียงครวญของหนุ่มไทยกำลังออกอากาศทางคลื่นวิทยุลูกทุ่งสยาม 97.97 เมกะเฮิรตซ์ ในช่วงเพลงช้างเผือก แต่ด้วยความผิดพลาดทางเทคนิคทำให้ทางคลื่นไม่อาจทราบว่าใครเป็นผู้ที่ส่งบทเพลงนี้มา คุณศรชัยผู้เป็นดีเจและเจ้าของคลื่นต้องประกาศตามหาเจ้าของบทเพลงนี้ด่วน นั่นเองจึง ทำให้ ดอกรัก…เด็กวัดจากเมืองสุพรรณบ้านเฮา ผู้มีความฝันและความหวังที่จะเป็นนักแต่งเพลง จนได้แต่งและทำเพลงขึ้นพร้อมกับลุงๆแตรวงประจำวัด โดยได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากหลวงพ่อ

ดอกรักได้ขออนุญาตหลวงพ่อเดินทางมุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพมหานครเพื่อมาแสดงตนว่าเป็นเจ้าของบทเพลงเสียงครวญของหนุ่มไทยกับทางคลื่นวิทยุลูกทุ่งสยาม บางทีความฝันของเขาอาจจะเป็นจริงในเร็ววันนี้แล้วก็ได้ แต่ทันทีที่มาถึงกรุงเทพฯ ดอกรักก็ได้รับการต้อนรับจากชาวเมืองหลวงด้วยการวิ่งราวกระเป๋าของเขา ดอกรักพยายามวิ่งไล่เพื่อแย่งกระเป๋าคืน เพราะภายในกระเป๋านั้นมีสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าชีวิตของเขานั่นคือเนื้อเพลงที่เขาและลุงๆจากคณะแตรวงภายในวัดร่วมกันทำขึ้นและเป็นหลักฐานชิ้นเดียวว่าเขาเป็นเจ้าของเพลงนั่น

นอกจากดอกรักจะเอากระเป๋ากลับมาไม่ได้แล้วเขายังโดนซ้อมจนสะบักสะบอม แต่เหมือนสวรรค์ยังเมตตา เมื่อดอกรักได้เจอกับป้าคนนึงบอกว่าตัวเองมีบ้านเช่า คิดค่าเช่าราคาถูกๆ โดยที่ดอกรักได้ให้เงิน ที่ค้นทั้งเนื้อทั้งตัวแล้วมีไม่กี่ร้อยให้กับป้าใจดี ยังดีที่ป้าแกบอกว่ามีแค่ไหนก็เอาแค่นั้นไว้ให้ดอกรักหาเงินได้แล้วค่อยผ่อนจ่ายทีหลังก็ได้

ดอกรักที่เพิ่งเศร้าจากความร้ายกาจของเมืองหลวงถึงกับซาบซึ้งใจ อย่างน้อยกรุงเทพฯก็ยังมีคนดี แต่แล้วดอกรักก็ต้องตกใจกับเสียงเอะอะโวยวายของ คำหล้า…สาวโรงงานผลไม้กระป๋อง เพราะคำหล้าคิดว่าดอกรักจะมาปล้นความสาวไปจากตน เสียงโวยวายทำเอาผู้เช่าทุกคนต่างออกมารวมตัวกัน ประกอบด้วย ทะนง…พนักงานรักษาความปลอดภัยผู้มีความฝันที่จะได้เป็นคนในเครื่องแบบ แต่เพราะการศึกษาน้อยทำให้เขาเป็นไม่ได้อย่างที่ใจฝัน ฤทธิ์…หนุ่มชาวปักษ์ใต้ผู้มีอาชีพขายไส้กรอกอีสาน เพื่อนำเงินที่ได้กลับไปไถ่สวนยางคืน ข่อย…หนุ่มแท็กซี่มิเตอร์ชาวอีสานผู้มีใจมั่นในรักแท้ ต้องการหาเงินเพื่อกลับไปแต่งงานกับหญิงอันเป็นที่รักที่บ้านนอก รินทร์…หมอนวดแผนโบราณชาวเชียงใหม่ที่มุ่งหน้ามาเมืองหลวงเพื่อต้องการหาเงินส่งกลับไปให้ครอบครัว อีกคนคือ โอ่ง…เด็กหนุ่มจากโคราช มีความฝันอยากเป็นเหมือน จา พนม

แต่จับพลัดจับผลูต้องมาเป็นเด็กส่งพิซซ่าเพื่อหาเลี้ยงตัวเอง แล้วคนสุดท้ายก็คือเจ้าของบ้านเช่า ที่ทุกคนต่างให้ความยำเกรงนั่นคือ เจ้หวาน…สาวใหญ่ชาวสุโขทัยที่บรรดาลูกบ้านต่างเปลี่ยนชื่อให้แกว่าเจ้เค็ม ดอกรักยืนยันกับเจ้หวานถึงเรื่องเมื่อคืนที่เขาจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าให้กับป้าใจดี คนนั้นแล้ว

ทำให้ทุกคนรู้ได้ทันทีว่าดอกรักเป็นเหยื่อถูกหลอกมาอีกราย ทะนงไล่ดอกรักให้ออกไปแต่ดอกรักอ้อนวอนขอความเมตตาจากเจ้หวานว่าหลังจากที่เขาหางานได้เมื่อไหร่จะนำค่าเช่า มาจ่ายให้ทันที ข่อยรู้สึกเห็นใจคนต่างจังหวัดเหมือนกันจึงช่วยขอร้องเจ้หวานอีกคน จนในที่สุด เจ้หวานก็ยอมเพราะห้องก็ยังว่างอยู่ แต่มีข้อแม้ว่าเจ้ให้เวลาหนึ่งเดือน ถ้าดอกรักไม่นำค่าเช่ามาให้ก็กลับบ้านนอกไป ดอกรักตระเวนออกตามหาชายคนที่ขโมยกระเป๋าของเขาไปจนหมดแรง รู้สึก ท้อใจในความเลวร้ายของเมืองหลวง ถ้าเขาเชื่อหลวงพ่อและลุงๆแตรวงที่พยายามเตือนเขา เขาก็คงไม่ถูกเมืองหลวงที่หลายคนบอกว่าเป็นสวรรค์ทำร้ายเขาอย่างนี้

ในขณะที่ดอกรักกำลัง จะสิ้นหวัง เขาก็ได้พบกับ ดาราราย…หรือ ดาว…สาวน้อยที่เหมือนนางฟ้ามาโปรด ทำให้ดอกรักรู้สึกชุ่มชื่นหัวใจ เสี้ยววินาทีที่เหมือนความฝันนั้นอยู่ๆ ก็เกิดความชุลมุนวุ่นวาย พอดอกรักรู้สึกตัวอีกทีก็เห็นแต่กระเป๋าสตางค์ใบนึงตกอยู่ เปิดออกดูจึงรู้ว่าเป็นของดาวนั่นเอง ดอกรักตามไปคืนกระเป๋าสตางค์ให้ดาวถึงบ้าน จึงได้รู้ว่าดาวเป็นลูกสาวของ ลุงโป่ง…เจ้าของสวนอาหารแห่งหนึ่ง ที่มี ศรีสมร…ผู้มีฐานะเป็นน้องเมียและเป็นหัวหน้า แม่ครัวใหญ่ประจำร้าน พี่โมทย์…พนักงานที่ทำทุกอย่างตั้งแต่จ่ายตลาดยันเอ็นเตอร์เทนลูกค้า การพบกันครั้งแรกไม่ค่อยน่าประทับใจนักเพราะเกิดเหตุการณ์เข้าใจผิดจนลุงโป่งเกลียดขี้หน้าดอกรักเข้าไส้ สั่งห้ามไม่ให้ดอกรักเข้ามาเหยียบที่นี่อีก ดอกรักกลับบ้านเช่าด้วยความเศร้าใจ เพื่อนๆ เห็นแล้วก็สงสารจึงช่วยกันวางแผนให้ดอกรักได้กลับเข้าไปที่นั่นอีกครั้ง แผนครั้งนี้สำเร็จ ดอกรักสามารถเดินเข้าออกที่ร้านลุงโป่งได้ทุกวัน แถมยังได้ใกล้ชิดกับดาวอีกด้วย แต่ดอกรักจะต้องทำงานทุกอย่างในร้านตามที่ลุงโป่งสั่งเพื่อใช้หนี้ที่เกิดจากความผิดพลาดในแผนครั้งนี้

แม้ว่าจะดอกรักจะถูกลงโทษแต่เขากลับยิ้มอยู่คนเดียวจนทุกคนที่บ้านเช่าพากันสงสัยว่าดอกรักท่าจะบ้า ข่อยได้รู้เรื่องที่ดอกรักแอบชอบดาวก็บอกให้ดอกรักตัดใจก่อนที่จะเสียใจมากไปกว่านี้ เพราะชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าแกน่ะอยู่บนดินแต่เขาน่ะอยู่บนฟ้า ยิ่งพอนึกถึงดุ๊ก…ชายหนุ่มที่ลุงโป่งบอกว่าเป็นว่าที่ลูกเขย รอยยิ้มที่กำลังเบ่งบานของดอกรักก็เป็นอันต้อง หุบลงทันที ข่อยบอกกับดอกรักว่าพวกเราเป็นคนแปลกหน้าของที่นี่ เหตุผลเดียวที่พวกเราทุกคนมากรุงเทพฯก็เพื่อต้องการชีวิตที่ดีกว่า แล้วสิ่งเดียวที่ทำให้พวกเรายังอยู่ที่นี่ได้ก็คือความหวังและเสียงเพลง

ดอกรักเพิ่งเข้าใจว่าทุกเย็นจะเห็นเหล่าชาวบรรดาบ้านเช่ารวมตัวกันที่สวนเพื่อรอฟังผลงานเพลงของตัวเองที่ส่งไปยังคลื่นวิทยุลูกทุ่งสยามเพื่อรอฟังว่าเมื่อไหร่ผลงานของพวกเขาจะได้ออกอากาศเช่นเดียวกับตน แต่แล้วดอกรักก็ต้องอึ้งไปเมื่อเขาได้ยินเสียงของคุณศรชัย ดีเจประจำคลื่นวิทยุลูกทุ่งสยามได้ประกาศด้วยความดีใจว่าบทเพลงเสียงครวญของหนุ่มไทยนั่นมีผู้แสดงตนเป็นเจ้าของบทเพลงแล้ว !!!

ดอกรักจะทำอย่างไรเมื่อเพลงที่เขาแต่งกำลังถูกคนอื่นแอบอ้าง แล้วเรื่องราวความรักที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ของเขากับดาวจะสมหวังหรือไม่ ก็คงต้องคอยลุ้นและคอยเอาใจช่วยกันได้ใน “ มนต์รักมหานคร ”

ใส่ความเห็น